เรื่องเล่าดีๆ จากพี่มัธยม |
|
|
 |
|
"ในปีนี้หนูได้ทำ PBL เรื่อง Gap Year หนูและเพื่อนในกลุ่มมีประสบการณ์การไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนมาเเล้ว จึงทำให้เราได้รู้ว่าการได้ใช้เวลาอยู่กับตัวเอง ได้ค้นหาตัวเองว่าชอบหรือไม่ชอบอะไรนั้นสำคัญมากๆ และสามารถเปิดโลกทัศน์ของเราได้มากขึ้นไปอีก แพลนของ Gap Year ที่หนูสนใจปีนี้คือการไปเป็น ‘อาสาสมัครที่ประเทศกัวเตมาลา’ เพื่อช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสให้มีความทัดเทียมกับเรา และใช้โอกาสนี้ในการเรียนภาษาสเปนควบคู่ไปด้วยค่ะ..."
ซายูริ - น.ส. รสิกา ทากาฮาชิ นักเรียนชั้น 11 สาวน้อยลูกครึ่งญี่ปุ่นบอกเล่าที่มาของการนำเสนอโครงงาน PBL ที่เพิ่งผ่านมา ซึ่งมีความน่าสนใจ จึงต้องตามไปพูดคุยต่อถึงเบื้องหลังความคิดกับการไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน ประสบการณ์ที่ได้รับได้เปลี่ยนมุมมองการใช้ชีวิตของเธอที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
|
|
เล่าถึงประสบการณ์การเป็นเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนตอนชั้น 10 |
|
หนูเลือกไปเเลกเปลี่ยนที่ประเทศเนเธอร์เเลนด์ค่ะ จากการไปแลกเปลี่ยนทำให้หนูได้เรียนรู้เเละเปลี่ยนทัศนคติไปเยอะมากๆ ทั้งในเรื่องของวัฒนธรรมที่หนูสนใจ เพราะการได้เจอเพื่อนชาวต่างชาติจากหลากหลายประเทศทำให้หนูได้เรียนรู้ความหลากหลายทางวัฒนธรรม และยังได้เรียนรู้ที่จะเเก้ไขปัญหาและปรับตัวให้เข้ากับสภาพเเวดล้อมของสังคมใหม่ๆ |
|
หนูมีความประทับใจต่อผู้คนที่คอยช่วยเหลือหนูตลอด 1 ปีที่ผ่านมามากๆ ทั้ง Host Family และอาสาสมัครดูแลโครงการ ที่คอยให้คำปรึกษามาโดยตลอด และประทับใจมิตรภาพที่ดีของเพื่อนชาวต่างชาติด้วยค่ะ ทุกวันนี้ก็ยังมีโอกาสได้ติดต่อกันอยู่ เป็นความสัมพันธ์ที่มีค่ามากๆ เพื่อนๆก็คอยสอนและให้คำปรึกษาเกี่ยวกับภาษาดัตช์และคอยให้กำลังใจ คอยซัพพอร์ตหนูตลอดเลย |
|
ตั้งเเต่กลับมาจากแลกเปลี่ยนทัศนคติของหนูในด้านต่างๆ เปลี่ยนไปเยอะมาก หนูเริ่มคิดเเละเรียนรู้ที่จะมีความสุขกับทุกๆ วัน ทำวันนี้ให้ดีและเต็มที่ที่สุด เรียนรู้จากข้อผิดพลาดของวันนี้และจึงค่อยพัฒนาในวันต่อๆ ไปอยากทำอะไรก็ให้ลงมือทำเลย อย่ามัวเเต่เสียเวลา และสิ่งสำคัญคือการคว้าโอกาสที่เข้ามาเสมอ ทำให้หนูมีพลังบวกในการใช้ชีวิตขึ้นเยอะมากๆเลยค่ะ |
|
มีการเตรียมพร้อมในการพัฒนาภาษาอย่างไรทั้งภาษาอังกฤษ และดัตช์ |
|
หนูฝึกฝนภาษาอังกฤษด้วยตนเอง และตั้งใจเก็บเกี่ยวสิ่งที่ครูสอนในห้องนำไปพัฒนาและศึกษาต่อ เพราะภาษาอังกฤษคือการฝึกฝนและการนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน เราต้องใช้บ่อยๆ ค่ะจึงจะเกิดประโยชน์มากที่สุด ภาษาอังกฤษไม่ได้เตรียมตัวอะไรมาก เพราะที่บ้านก็คุยกับคุณพ่อเป็นภาษาอังกฤษอยู่เเล้ว (พูดภาษาญี่ปุ่นบ้างนิดหน่อยค่ะ) ที่เพิ่มเข้ามาก็เป็นการพยายามหาเวลาดูซีรี่ หรือ หนังที่เป็นภาษาอังกฤษค่ะ และเรียนภาษาดัตช์เพิ่ม เเต่พอไปถึงประเทศเนเธอร์เเลนด์ด้วยสำเนียงของเขา ที่เรียนมาก็ปรับใช้ได้เพียงนิดหน่อย ส่วนมากก็ไปเรียนรู้จาก host family และจากเพื่อนๆ ค่ะ |
|
นำสิ่งที่ได้เรียนรู้จากโรงเรียนไปปรับกับการใช้ชีวิตต่างแดนอย่างไร |
|
โรงเรียนเพลินพัฒนาสอนทักษะชีวิตหนูในหลายๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการปรับตัวและยอมรับในความเเตกต่างทางความคิด เชื้อชาติ และวัฒนธรรม แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งความเป็นตัวของตัวเองและกล้าที่จะแสดงออกในสิ่งที่ตัวเองเป็น อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่โรงเรียนเพลินพัฒนาสอนคือการวางเเผนเป็นระบบ รู้จักหาข้อมูล และวางเเผน ทำยังไงให้การไปใช้ชีวิตคนเดียวที่ต่างประเทศราบรื่นที่สุด |
|
หลังจากจบ ม.6 คณะที่หนูให้ความสนใจมีทั้ง คณะโลกคดีศึกษา (GSSE) ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ คณะนิเทศศาสตร์ด้วยค่ะ โดยส่วนตัวแล้วชอบทางด้านวงการบันเทิง แต่โลกคดีศึกษาก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจเพราะหลักสูตรและเนื้อหานั้นตรงกับความสนใจของหนูไม่ว่าจะเป็น จิตวิทยา การปกครอง หรือสังคมศาสตร์ค่ะ |
|
ซายูริยังเป็น "ไอดอล" ให้น้องๆ ประถมในแง่ของความเป็นผู้นำเชียร์ในกีฬาแดงชาดที่เพิ่งผ่านพ้น ทั้งยังเป็นนักกิจกรรมต่างๆที่โรงเรียนจัดขึ้น ขอให้ซายูริมีความสุขกับทุกวันที่ผ่านเข้ามาและส่งต่อพลังบวกให้ทุกๆ คนที่รายล้อมด้วยนะคะ |
|
|